Tuesday, October 12, 2010

พุทธประวัติ-0050-พระสิทธิัตถะเสด็จประพาสพระนคร

ภาพพระสิทธัตถะ เสด็จประพาสนคร ด้วยรถเทียมม้าไปตามท้องถนน มีประชาชนชมอยู่บนเฉลียงบ้านเรือน. มีคนกั้นฉัตรให้รถซึ่งว่างอยู่ เพราะไม่ทำรูปพระสิทธัตถะ.

---------------------------------------------------------------------------------

ภาพนี้เป็นภาพสิทธัตถะในตอนที่เป็นหนุ่มแล้ว นั่งรถประพาสนคร มีชาวเมืองมองดูขบวนแห่ที่กลางถนนนั้น อยู่บนเฉลียงหรือหน้ามุขเรือนของตน ๆ โดยท้องเรื่องแล้วไม่มีอะไรที่จะต้องกล่าวถึง คงมีอยู่แต่ลักษณะเฉพาะทางโบราณคดีและศิลปวัฒนธรรมเป็นส่วนใหญ่.

ในรถนั้นว่างเปล่าไม่มีภาพคนนั่ง แต่มีคนคอยกั้นกลดให้นี้หมายความว่าตรงที่ว่างนั่นเอง มีพระสิทธัตถะนั่งอยู่ หากแต่ไม่ทำภาพ เพราะเป็นยุคที่ยังไม่ยอมทำภาพเหมือนของพระศาสดาดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จึงต้องทิ้งว่างไว้ด้วยความเคารพ. (อธิบายละเอียดมีอยู่ในตอนคำนำ) ฉัตรในที่นี้มีพวงมาลัยแขวน ซึ่งเป็นเครื่องหมายว่าใช้สำหรับบุคคลสูงสุด, ในขบวนนั้น นอกจากจะมีม้าลากรถโดยตรงแล้ว ยังมีม้าพิเศษอยู่ทางข้างหน้า ซึ่งยังทราบไม่ได้ว่าสำหรับอะไร ดูทำนองจะมี่ไว้สำรองเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจะใช้ได้ทันท่วงที หรือว่าในบางโอกาสพระสิทธัตถะจะทรงม้านั้นก็ได้, และเป็นม้าที่ไม่ถูกผูกหางไว้เสียข้าง ๆ เหมือนม้าที่กำลังลากรถ. มีคนคนหนึ่งในขบวนนั้นหิ้วหม้อน้ำชนิดมีพวยไปด้วยใบหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าขบวนนี้มีการให้ทานไปตลอดทาง, มิใช่กาใส่น้ำดื่ม. เครื่องแต่งตัวของคนทั้งขบวนนั้นแสดงว่าไม่มีคนชั้นไพร่ปนอยู่เลย. รถกำลังออกจากประตูเมืองซึ่งมีลักษณะอย่างเดียวกันกับในภาพที่ ๓๐, มีกำแพง ปราการ เชิงเทินที่เห็นได้ชัด สำหรับการศึกษาเปรียบเทียบกับยุคอื่น ๆ.

ทางฝ่ายคนดูขบวนนั้น เป็นผู้หญิงเสียทั้งหมด มีผู้ชายอยู่คนเดียว, ดูจากเครื่องแต่งตัว แสดงว่าเป็นคนชั้นสูง ดังนั้นอาจจะไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา หากแต่เป็นพระราชวงศ์นั่นเองก็ได้. ควรสังเกตเครื่องประดับกาย บ้านเรือน หลังคา หน้ามุขและเฉลียงเป็นต้น ดังที่กล่าวแล้วในภาพที่ ๓๐; กำไลมือกำไลเท้าที่มากเกินไปก็เป็นสิ่งที่ควรสังเกต.

การประกอบภาพโดยให้ขบวนอยู่ซีกล่าง คนดูอยู่ซีกบนเช่นนี้นับว่าเป็นการประกอบภาพที่ง่ายที่สุด แต่ก็ได้ผลดี. ภาพนี้ประกอบด้วยเส้นตรง และทรวดทรงที่แข็งทื่อจนสะดุดตา ซึ่งใคร ๆ ก็ทราบได้เองทันทีว่า ไม่ใช่แบบอมราวดี เพราะเป็นแบบสาญจีนั่นเอง, นี้เป็นสิ่งที่ควรหัดสังเกตไว้ทุกภาพ ไม่เท่าไรก็จะดูออกเองโดยไม่ต้องมีใครบอก. ในภาพนี้มีอะไรหลายอย่าง ที่แสดงความสูงทางวัฒนธรรมหรืออารยธรรมของอินเดียสมัยนั้น ซึ่งเป็นเวลาตั้งสองพันปีเศษมาแล้ว.

การประพาสนครของพระสิทธัตถะในภาพนี้ จะเป็นคราวเดียวกับที่พบเทวทูตทั้งสี่หรือไม่ ไม่อาจจะบอกได้ เพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องแสดง หากแต่ควรจะถือว่า ไม่ว่าครั้งไหนจะต้องมีลักษณะเช่นในภาพนี้เป็นธรรมดา

No comments:

Post a Comment